ผมชื่อเมธี แก่นสาร์ ลูกชาวนาจนๆจากบ้านเหล่าเสือโก้ก อำเภอเหล่าเสือโก้ก จังหวัดอุบลราชธานีที่โชคดีมีโอกาสได้รับการพัฒนาตนเองทางด้านการศึกษา โดยได้รับปริญญาบัตรใบแรกจาก มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร กรุงเทพ และใบสุดท้าย ปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัย บอลเสตท รัฐอินเดียน่า สหรัฐอเมริกา ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำที่คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ความที่ผมมาจากชนบทและไม่เคยMeteekansa.blogspot.com) ก็เพื่อสื่อถึงเพื่อนร่วมทาง ผู้ที่มีความคิดคล้ายกัน มีความเข้าใจและปรารถนาจะมีส่วนร่วมหรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นประสบการณ์ จะได้มีโอกาสให้คำแนะนำหรือให้การสนับสนุนได้ตามสมควร ฉะนั้นหากท่านเป็นผู้หนึ่งที่เห็นด้วยในแนวคิดนี้โปรดอย่าลังเลที่จะมีส่วนร่วม แม้อาจเพียงให้กำลังใจด้วยความคิดข้อเสนอแนะ (ผ่าน e-mail meteekns79@gmail.com หรือผ่าน Blog) ก็มีความหมายยิ่งและเป็นจุดเริ่มต้นที่สวยงามแล้วกับการทำอะไรดีๆร่วมกัน
ลืมภูมิหลังของตนเองผมจึงมักถึงชุมชนชนบทเสมอ ผมมีความคิดว่า ปัจจุบันแม้ชุมชนในชนบทจะเปลี่ยนไป มีความสะดวกมากขึ้น แต่ก็ยังขาดการไหลกลับไปของความคิดและวิชาการอยู่ไม่น้อย ความเจริญที่พอจะกลับไปบ้างส่วนมากจะเป็นด้านถาวรวัตถุเช่น น้ำไฟ ถนนหนทาง โบสถ์ ศาลาการเปรียญ เด็กๆในชนบทยังขาดผู้นำทางความคิด แบบอย่างที่ดีในเรื่องการพัฒนาตนเองด้วยความบากบั่น เชื่อมั่นในความพยายามและคุณความดี สิ่งนี้ทำให้ผมพยายามหาแนวทางในการนำวิชาการสานชุมชน โดยไปสอนให้เปล่าให้กับเด็กๆในหมู่บ้าน และแลกเปลี่ยนแนวคิดกับชุมชนเมื่อมีโอกาส ชักชวนลูกศิษย์ในมหาวิทยาลัยที่สนใจและเต็มใจไปช่วยงานสอนเด็กๆ รวมทั้งเชิญชาวต่างชาติไปพบเด็กๆบ้างเป็นครั้งคราวตามที่เวลาจะอำนวย
ด้วยกำลังและความสามารถอันน้อยนิด ผมยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้มากมาย แต่ก็สุขใจที่ได้ทำและจะทำต่อไป ที่ประชาสัมพันธ์ บอกเล่าเรื่องของตนเองผ่านหนังสือ ผ่านบล็อก (
ความที่ผมมาจากชนบทและไม่เคยMeteekansa.blogspot.com) ก็เพื่อสื่อถึงเพื่อนร่วมทาง ผู้ที่มีความคิดคล้ายกัน มีความเข้าใจและปรารถนาจะมีส่วนร่วมหรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นประสบการณ์ จะได้มีโอกาสให้คำแนะนำหรือให้การสนับสนุนได้ตามสมควร ฉะนั้นหากท่านเป็นผู้หนึ่งที่เห็นด้วยในแนวคิดนี้โปรดอย่าลังเลที่จะมีส่วนร่วม แม้อาจเพียงให้กำลังใจด้วยความคิดข้อเสนอแนะ (ผ่าน e-mail meteekns79@gmail.com หรือผ่าน Blog) ก็มีความหมายยิ่งและเป็นจุดเริ่มต้นที่สวยงามแล้วกับการทำอะไรดีๆร่วมกัน
ลืมภูมิหลังของตนเองผมจึงมักถึงชุมชนชนบทเสมอ ผมมีความคิดว่า ปัจจุบันแม้ชุมชนในชนบทจะเปลี่ยนไป มีความสะดวกมากขึ้น แต่ก็ยังขาดการไหลกลับไปของความคิดและวิชาการอยู่ไม่น้อย ความเจริญที่พอจะกลับไปบ้างส่วนมากจะเป็นด้านถาวรวัตถุเช่น น้ำไฟ ถนนหนทาง โบสถ์ ศาลาการเปรียญ เด็กๆในชนบทยังขาดผู้นำทางความคิด แบบอย่างที่ดีในเรื่องการพัฒนาตนเองด้วยความบากบั่น เชื่อมั่นในความพยายามและคุณความดี สิ่งนี้ทำให้ผมพยายามหาแนวทางในการนำวิชาการสานชุมชน โดยไปสอนให้เปล่าให้กับเด็กๆในหมู่บ้าน และแลกเปลี่ยนแนวคิดกับชุมชนเมื่อมีโอกาส ชักชวนลูกศิษย์ในมหาวิทยาลัยที่สนใจและเต็มใจไปช่วยงานสอนเด็กๆ รวมทั้งเชิญชาวต่างชาติไปพบเด็กๆบ้างเป็นครั้งคราวตามที่เวลาจะอำนวย
ด้วยกำลังและความสามารถอันน้อยนิด ผมยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้มากมาย แต่ก็สุขใจที่ได้ทำและจะทำต่อไป ที่ประชาสัมพันธ์ บอกเล่าเรื่องของตนเองผ่านหนังสือ ผ่านบล็อก (
No comments:
Post a Comment