ขอเพียงแค่เราต้องการ เราทุกคนล้วนสามารถทำอะไรอะไรหลายๆอย่างให้แก่คนอื่น แก่ชุมชนได้ ในฐานะที่อยู่ในสายวิชาการ และมีพื้นเพมาจากชุมชนชนบท เมื่อผมมีโอกาสได้เห็นสังคมภายนอกได้เรียนรู้ในความต่างความเหมือนแล้ว ผมมีความประสงค์ที่จะเข้าไปมีส่วนรับรู้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับชุมชน หาแนวทางลดช่องว่างทางความคิดระหว่างคนที่มีภูมิหลังและประสบการณ์ต่างกัน อยากมีส่วนช่วยเพิ่มโอกาสให้เด็กในชนบทได้มีโอกาสรับรู้เรียนรู้มากขึ้นเพราะผมพอจะทราบว่าคนในชนบทกับคนเมืองหรือคนจนกับคนรวยนั้นต้นทุนห่างกันเพียงใด นั่นเป็นเหตุผลที่ผมมักกลับไปที่หมู่บ้านที่ผมจากมา (บ้านเหล่าเสือโก้ก)โดยไปสอนเด็กๆแบบให้เปล่าในวันหยุดเท่าที่เวลาจะอำนวยมากว่าสี่ห้าปีแล้ว บางครั้งผมก็พานักศึกษาที่เต็มใจไปช่วยไปร่วมกิจกรรมกับเด็กๆ บางครั้งก็เชิญแขกชาวต่างชาติไปบ้างตามโอกาส อาจจะทำไม่ได้มากมายแต่ผมก็สุขใจที่ได้ทำ ผมอยากทำให้มากขึ้น แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้าง เมื่อทำมาได้ระยะหนึ่งแล้วจึงตัดสินใจบอกกล่าวให้คนทั่วไปได้รับรู้ผ่าน Blog นี้ เผื่อจะมีโอกาสทำให้ได้ดีขึ้น มากขึ้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ที่แรงสนับสนุน หากท่านเป็นคนหนึ่งที่พอจะเห็นในเจตนาอันบริสุทธิ์นี้และอยากมีส่วนร่วมโปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อผมได้ที่ meteekns79@gmail.com หรือแสดงความคิดเห็นให้คำแนะนำมาที่ Blog นี้

Friday, November 15, 2013

หยุดคิด



           จากการประชุม เสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 56 แม้จะเริ่มต้นแบบใจหายใจคว่ำเพราะเพื่อนสมาชิกติดภารกิจหายไปพอควร จนตอนเริ่มประชุมสมาชิกมาไม่ถึง9คน....ทำให้ต้องหยุดคิด ทำให้ผมต้องตั้งคำถามว่า จะเดินต่อจะเอาแน่และจะตั้งความหวังในชุมชนนี้มากขึ้นได้อย่างไร หาก ความไม่แน่นอนยังเป็นสิ่งที่แน่นอนอยู่เช่นนี้ ....แต่เมื่อนึกถึงเด็กๆ นึกถึงภาพเก่าๆ นึกถึงสิ่งใหม่ๆสิ่งที่อาจเป็นอาจเกิด...หากหลายฝ่ายมีความเข้าใจและช่วยกันมากกว่านี้เพียงอีกสักนิด........ก็เลยคิดใหม่มองใหม่...ขอเวลาให้ทั้งกับตัวเอง และสมาชิกช่วยกันพิจารณา...
           เพราะต้องยอมรับว่า เราทั้งคู่ต่างใหม่กับงานนี้...ผมใหม่ในฐานะที่พึ่งกลับเข้ามาสัมผัสกับความจริงในชุมชนหลังจากไปเพื่อการศึกษาและอาชีพเป็นเวลาร่วมยี่สิบปี อาจยังไม่เข้าใจอะไรอีกพอควรขณะเดียวกัน คนในชุมชนส่วนมากก็ชินกับการดำเนินชีวิตประจำวันไปตามปกติที่เคยเป็นเคยทำมา...ที่สำคัญดูเหมือนจะยังไม่เคยมีใครที่จะเข้ามาเชิญชวนทำงานอาสาเพื่อพัฒนาด้านความคิด การศึกษาและการส่งเสริมการคิดดีทำดีและสู้กับกระแสวัตถุนิยมแบบนี้...อีกประการหนึ่งชาวบ้านหลายท่านไม่ค่อยได้มีโอกาสมองชุมชนเหล่าเสือโก้กจากภายนอกหรือเห็นผลของวัตถุนิยมที่ส่งผลเสียต่อเยาวชน และสังคมโดยรวมมากนัก ...เขาจึงอาจยังมองไม่เห็นปัญหารวมทั้งมองไม่เห็นบทบาทหรือสิ่งที่เขาอาจสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือ   ทำได้....ผมจึงจะต้องพยายามมากขึ้น....แต่จำนวนที่เสียงในใจหรือที่รู้สึกเหมือนสิ่งศักดฺ์สิทธิ์บอก 9 คนเล่า จะทำอย่างไร...พูดแล้วจะคืนคำได้อย่างไร?นั่นคือสิ่งที่ผมหนักใจในวันนั้น
            ... ในที่สุดก็ถือว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านเหล่าฯคงยังอยากให้กลุ่มฯร่วมมือร่วมใจกันต่อไปเพราะค่อยๆมีสมาชิกมาประชุมเพิ่มจนเกินจำนวนไปเล็กน้อย และที่ประชุมก็ยังเห็นควรให้เดินต่อ
..................และยังได้ตกลงจะร่วมกันแสดงความมุ่งมั่น ความตั้งใจในการสนับสนุนให้ชัดเจนและกว้างขึ้น  ด้วยการจัดทำผ้าป่า เพื่อหากองทุนสักก้อนไว้สนับสนุน กิจกรรมอาสา  ของกลุ่มเพื่อพัฒนาการศึกษา เพื่อส่งเสริมการคิดดีทำดีต่อไป....โดยเชิญชวนทุกคนร่วมบริจาคตามกำลังและตามความสมัครใจ ถ้ายังไม่พร้อมด้วยทรัพย์ก็อาจเพียงช่วยเป็นกำลังใจหรือบอกต่อ
.............ก็ถือว่า เป็นการร่วมมือร่วมใจ เป็นการแสดงออกของตัวแทนส่วนหนึ่งในชุมชนที่สำคัญอีกครั้งหลังจากการได้ร่วมกันสร้างพระฯ....และถือว่าเป็นครั้งแรกของบ้านเหล่าฯที่จะมีการระดมแรงสนับสนุนส่งเสริมการคิดดีทำดีเพื่อส่วนรวมอย่างบริสุทธิ์ใจ โดยไม่มีเป้าหมายเพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือกลุ่มใดเป็นพิเศษหรือหวังผลการเมืองใดๆทั้งสิ้น  ส่วนผลที่จะได้จะมากน้อยแค่ไหน จะมีอะไรให้ได้สืบสาน หรือให้หยุดคิด หรือขอร้องให้ช่วยกันต่อไป .....ภายใน 15 ธันวาคม วันกำหนดทอดผ้าป่า...วันรวมน้ำใจ ทุกอย่างคงชัดเจนขึ้น....และวันนั้นเราจะรู้จะเห็นร่วมกันว่า น้ำใจอันบริสุทธิ์ของชาวบ้านเหล่าฯและเหล่ากัลยาณมิตรทั้งนอกทั้งในมีมากน้อยเพียงใด.ครับ...อย่างน้อยก็ช่วยบอกต่อๆกัน...บ้านเหล่า.....อีกเพียง -30-วันเท่านั้นครับ ทุกคนต่างช่วยกันได้

No comments:

Post a Comment