สิ่งเหล่านี้ ต้องร่วมมือกันแก้ไข ฝึกพูดให้ตรงกับใจ พร้อมๆกับใช้ปิยวาจา ทำให้การพูดคุยมีคุณค่า ด้วยการว่ากันตามเหตุ ตามผล แบบคนดีๆ คุยกัน แบบไม่มีชั้นชน......ผมพยายามยึดตามนี้ในการสื่อสาร ไม่ว่ากับคนระดับประเทศ หรือในเขตเหล่าเสือโก้ก ....ข้างล่างคือตัวอย่าง การสื่อสาร ที่เกิดขึ้นระหว่าง 27 - 29 กันยายน 2558
ผู้ที่ไม่ด่วนตัดสินผม ผู้ที่ยังเมตตาผมในฐานะครูแก่คนหนึ่งที่(อาจหลง)เข้าใจว่า กำลังทำหน้าที่ครู หน้าที่นักวิชาการตัวเล็กๆ ในสภาวะที่สังคมไทย กำลังมุ่งไปที่การปฏิรูป โดยผมหวังอย่างบริสุทธิ์ใจว่า การสื่อสาร การออกมาเสนอแนวคิดมุมมอง ของนายเมธี แก่นสาร์ ครูที่บางคนว่าบ้าว่าเพี้ยน คนนี้ น่าจะมีส่วนในการร่วมทำดี ทำให้มีการใคร่ครวญ ชวนให้เกิดความยุติธรรมกับทุกคนทุกฝ่าย ทั้งท่าน และผม....หรือสังคมไทยขอได้โปรดมีน้ำใจ เป็นกัลยาณมิตร ชี้ผิดชี้ถูกให้ผมที นายเมธี แก่นสาร์ คนนี้ มีที่พลาด หรือขาดสติในการสื่อสาร หรือส่อความเป็นคนพาล ที่ใดบ้าง ช่วยชี้ทางให้ผมที เมธีขอขอบคุณ
..........................>>>
บันทึกเมื่อ 16:21 บ่ายวันที่ 29 กันยายน 2558
นั่นซิขนาดตำรวจยังสงสัย
ในความยุติธรรม ผมก็ยังจำ และขำไม่ออก แต่ไม่ทราบใครทำหลอกหรือเปล่า
ข่าวรัฐมนตรียุติธรรม ออกมา ปกป้อง น้องคนดี ผู้ดีชั้นแถวหน้า
ที่กล้าท้าทายหลายๆกฏหลายๆคน แถมก่นว่าคนอื่นหาความ ข่าวบอกว่าท่านจับเทียบกับ
กรณีตำรวจลาไปสมัครผู้ว่า มันเหมือนดูถุกสายตา ปัญญาประชาชน
เหมือนเป็นคนไม่รู้คู่มวย ฟังดูห่วยจริงๆ
หมอแอร์ จัดหนัก
-บางคนอาจหลงไปมองเป็นประเด็นทางการเมืองเพียงอย่างเดียว จนมองข้ามประเด็นหลักๆคือกระบวนการเข้าบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจที่ไม่ชอบธรรม ซึ่งควรจะหมดไปจากสังคมไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นของประเทศไทยและคนไทยทุกคน ไม่ใช่องค์กรหรือบริษัทของใครคนใดคนหนึ่งที่มีอำนาจแล้วคิดจะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ อยากเอาใครมาบรรจุก็ได้ แอบเปิดแอบรับแอบสัมภาษณ์ แอบตรวจร่างกาย รับตำแหน่งเดียว สมัครคนเดียว ได้คนเดียว จะมีไปอีกนานแค่ไหน? อีกกี่ตำแหน่งที่ต้องเสียไป?
บางคนได้ติดยศรับเงินเดือนทุกเดือนแต่ไม่ทำงานราชการเลย กลายเป็นกาฝากขององค์กรและลอยหน้าลอยตาในสังคมว่าตนเป็นตำรวจโดยปราศจากจิตสำนึก
-บางคนอาจหลงไปมองเป็นประเด็นทางการเมืองเพียงอย่างเดียว จนมองข้ามประเด็นหลักๆคือกระบวนการเข้าบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจที่ไม่ชอบธรรม ซึ่งควรจะหมดไปจากสังคมไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นของประเทศไทยและคนไทยทุกคน ไม่ใช่องค์กรหรือบริษัทของใครคนใดคนหนึ่งที่มีอำนาจแล้วคิดจะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ อยากเอาใครมาบรรจุก็ได้ แอบเปิดแอบรับแอบสัมภาษณ์ แอบตรวจร่างกาย รับตำแหน่งเดียว สมัครคนเดียว ได้คนเดียว จะมีไปอีกนานแค่ไหน? อีกกี่ตำแหน่งที่ต้องเสียไป?
บางคนได้ติดยศรับเงินเดือนทุกเดือนแต่ไม่ทำงานราชการเลย กลายเป็นกาฝากขององค์กรและลอยหน้าลอยตาในสังคมว่าตนเป็นตำรวจโดยปราศจากจิตสำนึก
"ถ้าคิดจะปฏิรูปองค์กรตำรวจจริงๆดังที่เคยประกาศกร้าวกันมาควรเริ่มตั้งแต่การคัดคนเข้ามาบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจอย่างถูกต้อง"
ทุกตำแหน่งควรรับตามหลักเกณฑ์อย่างชอบธรรม เปิดรับสมัคร ประกาศ สอบแข่งขัน เลือกคนที่มีความสามารถเหมาะสมและพร้อมที่สุด ถ้าเข้ามาแล้วไม่ทำงานเลยก็ควรจะลาออกไปหรือถูกไล่ออก ให้คนที่อยากทำงานเข้ามาทำงานแทน
ทุกตำแหน่งควรรับตามหลักเกณฑ์อย่างชอบธรรม เปิดรับสมัคร ประกาศ สอบแข่งขัน เลือกคนที่มีความสามารถเหมาะสมและพร้อมที่สุด ถ้าเข้ามาแล้วไม่ทำงานเลยก็ควรจะลาออกไปหรือถูกไล่ออก ให้คนที่อยากทำงานเข้ามาทำงานแทน
สำหรับคนมีเงินมีฐานะอยากให้ลูกได้ติดยศเป็นตำรวจ
ควรจะส่งเสริมให้ลูกอ่านหนังสือไปสอบแข่งขันกับคนอื่นอย่างยุติธรรมแฟร์ๆ ถ้าลูกคุณแน่
เค้าจะสอบได้แน่นอน ลูกชาวบ้านจนๆต้นทุนน้อยยังสอบได้
แล้วลูกคนต้นทุนชีวิตสูงจะสอบไม่ได้ก็ให้ไปทำอาชีพอื่นที่เหมาะกับเค้ามากกว่า
ให้ลูกได้เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฏร์อย่างสง่างามและภาคภูมิดีกว่าเข้ามาเป็นกาฝากขององค์กรให้อับอาย
ให้เกียรติของวงศ์ตระกูลต้องมัวหมอง
"หากโกงตั้งแต่เริ่มเข้ามา
แล้วจะเป็นผู้รักษากฎหมายของประเทศได้อย่างไร?"
----------------------------
25 กย. 58 หมอแอร์
ที่มา facebook. หมอแอร์
https://www.facebook.com/…/a.477728545635…/917435358331444/…
----------------------------
25 กย. 58 หมอแอร์
ที่มา facebook. หมอแอร์
https://www.facebook.com/…/a.477728545635…/917435358331444/…
·
Comments
·
Metee Kansa ผมแน่ใจมากว่า
ที่เขียนมาไม่ใช่เพราะอคติ แต่โดยหลักการ ที่ทุกอย่างควรเท่าเทียมกัน
และหลักเหตุผล ตามข่าว คูณคนดัง บวกที่ฟังทางนายสุเทพ และคนใหญ่โตที่โผล่สนับสนุน
ลุ้นระนึก มันเหมือนกับเชื่อเอามากๆ ว่า น้องตั๊น ไม่ได้ทำอะไรไม่เหมาะสมเลย
เธอเป็นคนดี เพรียบ...See More
บันทึก 23:02 คืน 27 กย 58
ที่สื่อสารกับสท เหล่าแค (โดยนามสกุล ดูเหมือนมีเชื้อสายทางแม่นายเมธี)
22:48
และก็น่าสนใจ
พอๆกับที่คนที่ชื่อว่าดี ว่าเป็นผู้นำ คนใหญ่คนโตหลายๆคนในประเทศทำ ....พอมีคำถาม
กลับมา ก็ไม่ตอบก็เงียบไปเลย หรือตัดสินเลยว่าแดงว่าเหลือง....หาก
การทีผมถามกลับจะถูกมองไปว่า ผมโกรธ ผมเถียงอย่างเดียว แล้วพากันเดินหนีผมไป
แบบที่หลายคนทำเมื่อคุยกับคนบ้า คนเมา หรือคนที่ตนรังเกียจ ....แม้ผมจะเข้าใจว่า
คุณแต่ละคนมีสิทธิ์จะเลือกทำแบบนั้นได้ แต่ผมไม่แน่ใจว่าคนที่อยู่ในตำแหน่งหน้าที่
ที่มีหน้าที่ทำงาน เพื่อความสุข สามัคคีในบ้านในเมือง ในชุมชน สมควรจะทำแบบนั้น
...ในมุมมองของคนที่คุณและอีกหลายคนมองว่าแปรปรวน ผมว่า
ผู้ที่ได้เสนอตัวเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้แทนในชุมชน มีงานโดยหน้าที่ๆต้องดูแล
แก้ไขสิ่งต่างๆในชุมชน แม้แต่เจอ คนบ้า คนเมา ผมว่า มันก็เป็นหน้าที่ๆ ต้องติดตาม
หาสาเหตุ เพื่อทำให้คนบ้าคนเมาเหล่านั้น อาการดีขึ้น จะได้ไม่ไปสร้างความเดือดร้อน
แก่คนในสังคม....หากคุณเพิกเฉย คุณควรจะถามตัวเองว่า คุณทำหน้าที่เต็มที่หรือยัง
หากคุณจะโกรธ ที่คนๆใดคนหนึ่งติง ในสิ่งที่คุณ หรือกลุ่มคุณทำ
หรือทำงาน...คุณอาจมีสิทธฺิโกรธ ในฐานะที่คุณก็เป็นคน แต่คนที่เสนอตัวมารับใช้
ประชาชน ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะโกรธ เพียงแค่เขาถาม เขาไม่แน่ใจว่า ที่คุณคิด
ที่คุณให้เหตุผลนั้น มันถูกต้อง ครบถ้วนหรือไม่ เพราะมีข้อความจริงอันหนึ่งคือ
ประชาชนคนไทย ที่เสียภาษีให้แผ่นดินทุกคน มีสิทธิที่จะคาดหวังการทำงาน ตามหน้าที่
จากทุกคนในทุกตำแหน่งที่กินภาษี ประชาชน และ ประชาชนทุกคน มีสิทธิจะรับรู้รับทราบ
แนวทางวิธีการบริหาร ของหน่วยงานต่างๆ ที่โดยโครงสร้าง ได้รับเงินอุดหนุน
จากภาษีส่วนรวม....ผมเองโดยบทบาทหน้าที่ ผมเป็นนักวิชาการ
...ผมกำลังหาข้อมูลข้อเท็จจริงในปัญหาการทำงาน การประสานงานของหน่วยงาน ชาวบ้าน
รวมทั้งตัวผมเอง...เพื่อความถูกต้องของรายงาน.....แม้ในสายตาของบางท่าน
อาจแน่ใจในสายตาในสติปัญญาตัวเองว่า ผมแปรปรวน ทำงานอะไรเป็นแบบแผน
เป็นขั้นตอนไม่ได้ แต่ข้อเท็จจริงอีกอันคือ ผมไม่เคยถูกพักราชการ ผมยังทำงานปกติ
ผมสอนนักศึกษา มาหลายคน หลายที่พอประมาณ ....สิ่งเหล่านี้ ผมว่า
ผมมีเหตุผลสนับสนุน พอที่จะถามกลับว่า ผมไร้ความสามารถ ถึงขั้น ไม่ควร ประสานด้วย
ไม่ควรร่วมงานด้วย เพราะจะมีผลเสียต่องานจริงๆเหรอ คนที่คิดและตัดสินผมแบบนั้น
แน่ใจเหรอ ว่าคิดรอบคอบถูกต้องแล้ว หากแน่ใจ ...และมีเหตุผลพอ ผมก็ใคร่ขอความเมตตา
เสียเวลา สงเคราะห์ให้คำอธิบาย แก่ผมเพื่อให้ผมเข้าใจ ในสิ่งที่ผมสงสัย หรือ
ยังมองไม่เห็น นั่นคือสิ่งที่ผมกำลังทำ และจะต้องหาคำตอบให้ได้....
เพราะผมเองเกิดที่เหล่าเสือโก้ก แม้ไม่ได้อยู่ที่ในหมู่บ้านตลอด
แต่ผมก็พอจะมีข้อมูลอยู่บ้าง ผมไม่มีทางเชื่อว่า ทุกคนในบ้านเหล่าเสือโก้ก
จะตีค่าผม เป็นศูนย์ และไม่ยอมจะอธิบาย ตอบคำถามผมเลย ผมไม่เชื่อว่า
ผมเลวและต่ำติดดินที่สุด แปรปรวนที่สุดในบ้านเหล่าเสือโก้ก ครับ ผมอาจคิดผิด ก็ได้
เวลา และข้อมูลคงทำอะไรให้ชัดเจนขึ้น.....กับปัญหา การทำงาน การประสานงาน
หลักการมีส่วนร่วม กับการพัฒนาการสอนภาษา และชุมชนที่เหล่าเสือโก้ก
สำหรับคนที่เข้าใจและให้ค่าผมบ้าง
บนเส้นทางเดิน ผมมาถึงจุด เปลี่ยนแล้ว และเช่นเคย ผมไม่เคยไม่รักษาสัญญา
แม้โดยหนังหน้า จะเป็นแค่คนชนชั้นขี้ข้าปัญญาขีเลื่อย แถม
อารมณ์ก็เปื่อยยุ่ยก็ตาม.....Dear friends, another turning point on my life;
It's my fault for not being to handle things well enough: I have made a
decision to quit my job by the end of this semester if I cannot meet the dead
line and screw my plan myself. I need to go back to where I came from and deal
with my fellow p...
·
2 shares
·
Comments
·
Metee Kansa อีกอย่างที่จะขอ และกำลังขอ จากกัลยาณมิตร หากเห็นจุดใดว่าผมคิดผิด
หรือติดและหลงกับตนเอง ช่วยแนะนำผมด้วย คุณลูกผมได้ทำหน้าที่ที่ดีแล้ว เขาบอกผมว่า
."เห็นแต่ข้อเสียคนอื่นไม่มองตัวเอง" ผมดีใจมากที่มันช่วยบอกช่วยสอนผม
แต่ทำไมผมคิด
ว่าผมพยายามมองอยู่นะ
ท่านก็ช่วยชี้ช่วยเตือนผมอีกคนนะครับ
อย่าทำร้ายหัวใจคนแก่ประเภทที่พวกแตหลอขอกันไปทำกันเลย
Metee Kansa ใบหน้านายเมธีที่ใกล้ตาย เพราะเล่นตลกร้าย
วุ่นวายกับเรื่องใครร้ายใครดี สีอะไรกัน มันจะไหม้ชาติแล้ว
ตั้งใจจะเอาขึ้นปกหนังสือ สื่อจากใจ บอกให้รู้ที่วุ่นวายอยู่ เพราะความเป็นครู
และเป็นคน ที่ทนกับความไม่ตรงไปตรงมาของผู้หลักผู้ใหญ่หลายๆคนไม่ได้ เพราะแน่ใจว่าไม่ได้คิดชั่ว
จึงขอสลัดตัดความกลัวออกไป ให้มันหายอึดอัด แต่ชะตาช่างจัดหนัก เล่นมาพักนี้
เพราะผมไม่มีเวลาเอาเสียจริงๆ
บันทึกเมื่อ 11:59 เช้า 27 กันยายน 2558
อาจารย์เมธี (จากสวนสุนันทา)
Mathee Sootsukont ผมนับถืออาจารย์มากครับ
ความคิดเห็นของอาจารย์จัดเป็นศาสตร์บริสุทธิ์ได้ทีเดียวครับ ด้วยความเคารพครับ
·
Metee Kansa ขอบพระคุณในกำลังใจครับ แต่เรียนตรงๆ
ผมอยากจะเน้นให้ช่วยสะท้อนจุดที่ผมผิดพลาด ที่มันทำให้ผม
รู้สึกอยู่ยากกับสังคมปัจจุบัน สองปีมาแล้ว ผมก็ไม่ค่อยคุยกับใครเท่าไร
เพราะไม่แน่ใจว่า จะทำให้เขาเสียเวลาไปเปล่าๆหรือไม่ คือ ถ้าความคิดเราไม่มีค่า
จะว่า จะพูดไปทำไม ที่ที่ผมเจ็บใจ ก็บอกว่าดี อย่างนั้นอย่างนี้ แต่
พอมีเรื่องมีงานเกี่ยวกับส่วนรวมแท้ๆ ก็เหมือนไม่ฟัง ไม่เข้าใจ ผมจึงแน่ใจว่า
ในตัวผม คงมีจุดอ่อนมากมาย ขนาดคุณลูกชาย มันก็ว่าผมมองแต่จุดเสียของคนอื่น
คนแก่เลยยืนลำบาก หากกัลยาณมิตรไม่ช่วยกันมอง
Mathee Sootsukont ผมกลับมองตรงข้ามครับ
แนวคิดของอาจารย์มีการปรุงแต่งจากกระแสน้อย มีความเป็นตัวของตัวเอง
คล้ายนักวิชาการของตะวันตก ซึ่งเมืองไทยกลับมีแต่นักวิชาการตามกระแส หรือสวนกระแส 180 องศา ไม่ค่อยมีใครคิดสร้าง School of
Thought ของตัวเองกันนัก
การไม่โปร หรือ คอน แบบอาจารย์ผมว่า ระยะหนึ่งคงพัฒนาเป็น Metee School ที่น่าสนใจนะครับ
No comments:
Post a Comment